Fabinho ก็เป็นอีกหนึ่งดาวเตะที่มีความยิ่งใหญ่อีกทั้งยังมีประวัติที่ไม่ธรรมดาตั้งแต่ก้าวย่างเข้าสู่สังเวียนสนามหญ้ามาเลยทีเดียว ซึ่งเขานั้นนับว่าเป็นยอดนักเตะที่มีลีลาจอมยอดเยี่ยมคนหนึ่งแล้วเป็นกองกำลังสำคัญในด้านกองกลางของทางด้าน ลิเวอร์พูล และทีมชาติบราซิลที่มีความโดดเด่นเพราะตัวเขาเองนั้นยังสามารถที่จะใช้ความสามารถที่มีอยู่พลิกเกมได้อยู่อย่างตลอดเวลา ซึ่งจะทำให้การทำประตูนั้นมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นบวกกับศักยภาพในการส่งบอลที่มีความแม่นยำสูงราวกับจับวาง จึงคาดว่าหลาย ๆ ท่านก็คงอยากจะรู้ประวัติของยอดขุนพลร่างผอมแห่งบราซิลคนนี้จริงไหมเชิญทางนี้ได้เลย
ฟาบินโญ่ มีชื่อเต็มแท้จริงว่า ฟาบียู เอ็งรีกือ ดาวาริช เกิดวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 1993 โดยเขาผู้นี้นั้นเป็นนักเตะสัญชาติบราซิล 100% และมีความสามารถอันโดดเด่นจนทำให้ได้รับเลือกในการลงสนามในฐานะทีมชาติบราซิลในตำแหน่งแบ็คขวาและกองกลางตัวรับ ซึ่งในปัจจุบันก็ยังเล่นบอลในตำแหน่งกองกลางให้กับสโมสรลิเวอร์พูล และสร้างผลงานได้เป็นอย่างดีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ประวัติตั้งแต่เมื่อครั้งเยาว์วัยจนถึงปัจจุบัน
ฟาบิญญู เป็นนักฟุตบอลทีมชาติบราซิลที่มีส่วนสูงโดยประมาณ 188 เซนติเมตร หรือ 6 ฟุต 2 นิ้ว ซึ่งมีความสามารถอันโดดเด่นทางด้านฟุตบอลที่มีทักษะในการครองบอลที่สูงเลยทีเดียว จึงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนี่คือตัวรับและแบ็คขวา โดยปัจจุบันนั้นได้ยืนหยัดอยู่ในสโมสรลิเวอร์พูลโดยสวมเสื้อหมายเลข 3 ซึ่งตั้งแต่อดีตเมื่อครั้งเป็นเยาวชน จะเริ่มเล่นสโมสรเยาวชนให้กับปอลิเนียในปี 2006 และย้ายมาเล่นให้กับทีมเยาวชนฟลูมิเนนเซ่ในปี 2010 – 2012 หลังจากนั้นก็เปิดโอกาสให้กับตัวเองได้เริ่มเล่นในสโมสรอาชีพครั้งแรกกับทีมริโอ้อาฟในปี 2012 – 2015 จากนั้นก็มีการย้ายรูปแบบส่งตัวให้กับทางสังกัดทีมชั้นนำแห่งสเปนอย่าง Real Madrid ในปี 2012-2013 ซึ่งเขานั้นยังได้โชว์ศักยภาพความเป็นยอดนักเตะให้กับต้นสกัดได้เล็งเห็นจนได้รับเลือกในการเล่นตรงกับสโมสร Real Madrid ชุดใหญ่ในปี 2013 และครั้งต่อมาก็ยังได้ย้ายไปอยู่ที่โมนาโกและลงแห้งให้ชุดใหญ่ของสโมสรนั้น ๆ ในปี 2013 – 2015
ซึ่งเมื่อลงสนามอย่างบ่อยครั้ง และสร้างผลงานฟอร์มดีงานดีมาตลอดโมนาโกจึงตัดสินใจซื้อมาร่วมทีมในปี 2015 เป็นต้นมา ซึ่งก่อนนั้นเขายังโชว์ฟอร์มอันโดดเด่นอยู่แบบไม่ตกเกรด และเล่นในสโมสรโมนาโกด้วยความตั้งใจเสมอมาได้เข้าตาแมวมองของสังกัดแอนฟิลด์ในที่สุด จึงมีการติดต่อและดึงตัวเข้ามาร่วมสังกัดลิเวอร์พูลจนได้ในปี 2018 ด้วยสัญญาค่าตัวที่มากถึง 39 ล้านปอนด์ จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นมา ซึ่งสิ่งนี้ไม่เกินคาด และเป็นสิ่งที่ตัวเขาเองนั้นมีความภูมิใจเป็นที่สุดที่ทำตามความฝันตัวเองได้สำเร็จทุกเรื่องราวในชีวิต โดยถ้าจะกล่าวไปแล้วนี่คือหนึ่งในยอดนักเตะที่มีความมุ่งมั่นและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้ตัวเขานั้นเป็นที่ต้องการของบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ อยู่ตลอด ซึ่งสิ่งนี้ทุกท่านน่าจะได้ฟังจากหลาย ๆ กระแสที่มีการนำเสนออย่างต่อเนื่องและไม่ขาดสายจริงไหม
ในการฟาดแข้งให้ลิเวอร์พูล
ฟาบียู เอ็งรีกือ ตาวารึช นั้นได้สร้างประวัติอันโดดเด่นให้กับทีมต้นสังกัดของตัวเองอย่างมากมาย ซึ่งในวันที่ 18 กันยายน ค.ศ. 2018 ในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลที่ 2018 – 2019 ในรอบแบบกลุ่ม เขาได้ทำหน้าที่ลงเล่นให้กับทีมลิเวอร์พูลเป็นนัดแรกในนัดที่ลิเวอร์พูลเปิดสนามแอนฟิลด์ เอาชนะปารีสแซงต์แฌร์แมงจากฝรั่งเศสได้ 3 ประตูต่อ 2 โดยสำหรับนัดที่เขาได้ถล่มประตูโชว์ฟอร์มแข้งอันร้อนแรงของเขาเป็นครั้งแรกให้กับลิเวอร์พูลนั้น อยู่ในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2018 ในศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ 2018-2019 ที่ลิเวอร์พูลเปิดสนามแอนฟิลด์เอาชนะนิวคาสเซิลยูไนเต็ด 4 ประตูต่อ 0
ฤดูกาลที่ 2020 ถึง 2021
ในช่วงกลางฤดูกาล ฟาบียู นั้นได้ลงมาทำหน้าที่ได้อย่างโดดเด่นในตำแหน่งกองหลังจำเป็นเนื่องจากผู้เล่นตัวสำคัญหลายคนบาดเจ็บ ซึ่งเขาก็ได้โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเป็นอย่างมาก
ฤดูกาลที่ 2021-2022
ในช่วงวันที่ 3 สิงหาคม 2021 ปรากฏการณ์ที่สำคัญของชีวิตของเขานั่นก็คือเจ้าตัวตัดสินใจต่อสัญญาในระยะยาวกับลิเวอร์พูลจนถึงปี 2026 ประมาณในวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2021 ฟาบินโญ่ ก็ยังได้โชว์ฟอร์มในการทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2021-22 ให้กับสโมสรลิเวอร์พูลต้นสังกัดของตน ซึ่งสามารถเอาชนะลีกยูไนเต็ด ที่เอลแลนด์โรด ได้อย่างสวยงามด้วยสกอร์ 3 ต่อ 0 ประตู แล้วต่อมาเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2022 ในศึก อีเอฟแอลคัพ นัดชิงชนะเลิศเมื่อครั้งที่ลิเวอร์พูลเจอกับเชลซีที่สนามกีฬาเวมบลีย์ จนท้ายที่สุดลิเวอร์พูลก็สามารถเอาชนะเชลซีได้จากการโดนจุดโทษ 11 ต่อ 10 และเป็นการช่วยให้ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ อีเอฟแอลคัพ ได้ในที่สุดเป็นสมัยที่ 9 ได้อย่างสวยงาม
ฤดูกาลที่ 2022-23
ในวันที่ 30 กรกฎาคมค.ศ 2022 ในเกม เอฟเอคอมมิวนิตี้ชิลด์ 2012 และการที่ลิเวอร์พูล พบกับ Manchester City ที่ King Power Stadium ซึ่งท้ายที่สุดแล้วลิเวอร์พูลก็สามารถเอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี้ 3 ต่อ 1 ช่วยให้ลิเวอร์พูล นั้นคว้าแชมป์คอมมิวนิตี้ชิลด์สมัยที่ 16 ได้สำเร็จนั่นเอง
โดยถ้าจะกล่าวโดยสรุปนั่นก็ ฟาบินโญ่ นับว่าเป็นกองกลางและกองหลังตัวรับที่มีศักยภาพสูงสุดคนหนึ่งที่ไม่สามารถขาดไปได้ และเป็นกำลังหลักที่ทำให้ทีมลิเวอร์พูลนั้นมีความแข็งแกร่งในด้านเกมรับอยู่ทุกครั้งที่มีเขายืนหยัดอยู่ จะสามารถสบายใจได้เปลาะหนึ่งเลยทีเดียว แล้วคาดได้ว่าเขาผู้นี้ก็จะเป็นขวัญใจที่สำคัญไม่น้อยสำหรับเราแฟน ๆ ของหงส์แดงในปัจจุบันอย่างแน่นอนเลยทีเดียว