แวงซองต์ กอมปานี อีกหนึ่งในชื่อของ นักเตะ ที่ไม่มีใครไม่รู้จักเป็นแน่แท้ซึ่งเขาผู้นี้นั้นยังได้รับการยกย่องมาเป็นดาวรุ่งชาวเบลเยียม ที่เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลดาวรุ่งและมาแรงจนน่าจับตาสูงสุดในวงการค้าแข้งลูกหนังยุโรปเลยทีเดียว ซึ่งสำหรับตัวเขาเองนั้นได้มีประวัติในการผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านสังเวียนการฟาดแข้งมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ใครเล่าจะรู้ถึงรายละเอียดที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของยอดดาวเตะคนนี้ ถ้าคุณอยากจะรู้แล้วละก็ความลับนั้นอยู่ในมือคุณแล้วตามมาเลย
เส้นทางเริ่มต้นอาชีพค้าแข้ง
Vincent Kompany นั้นเป็นหนึ่งในผู้ที่เล่นฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กแต่เข้าร่วมกับทีมเยาวชนของ อันเดอร์เลชท์ อยู่ในบ้านเกิดตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบเท่านั้น และได้เล่นในตำแหน่งนั้นยาวนานจนกระทั่งอายุ 17 ปีจึงได้รับโอกาสเลื่อนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ซึ่งเขานะเรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเพราะสำหรับตำแหน่งนักเตะกองหลังที่มีโอกาสได้เล่นในทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 17 ปี เพราะสำหรับการเล่นกองหลังนั้นอย่างน้อยที่สุดนั้นก็คงจะต้องมีประสบการณ์ ดังนั้นก็คงโดนกองหน้าเก่ง ๆ หลอกจนหงายทั้งยืนเหมือนกองหลังดาวรุ่งหลาย ๆ ดวงที่ร่วงลงไปแต่ทว่าสำหรับเขาแล้วการได้รับโอกาสในการรบสนามกับทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ซึ่งสำหรับลีกในบ้านเกิด เขายังสามารถคว้ารางวัลรองเท้าทองคำมาครองได้ 1 สมัยในปี 2004 ซึ่งในช่วงดังกล่าวนั้นก็ยังมีโชคร้ายเกิดขึ้นกับชีวิตของเขานั่นก็คือเกิดประสบพบความบาดเจ็บจนต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานานกว่า 2 เดือน ซึ่งกว่าจะกลับมาเล่นใหม่ได้อีกครั้งก็ทำให้บรรดาแฟนบอลนั้นอกสั่นขวัญหายไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วต่อมาเขาก็เริ่มรู้สึกแล้วว่าต้นสังกัดที่อาศัยอยู่มันเริ่มเล็กเกินไปสำหรับผู้ที่มีฝีเท้าและฝีไม้ลายมือระดับนี้ ซึ่งก็มีสโมสรยักษ์ใหญ่หลายแห่งเป็นอย่างมากที่ให้ความสนใจที่จะคว้าตัวเขาไปร่วมทีม ซึ่งในศึกแย่งชิงตัวครั้งนั้นสิงห์เหนือฮัมบูร์ก ก็ได้เป็นผู้ที่คว้าไปแบบเหนือความคลาดหมายเลยทีเดียว
บันทึกการเดินทาง สโมสรฮัมบูร์ก
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2006 สำหรับ Vincent Jean Mpoy Kompany เป็นการเดินทางสู่สโมสรบ้านหลังใหม่อย่างฮัมบูร์กด้วยค่าตัวที่สูงถึง 8 ล้านยูโร ซึ่งสมัยนั้นถือว่าสูงเป็นอย่างมากโดยเมื่อเขาได้ลงสนามไปเพียง 6 นัดเท่านั้น ก็กลับมีปัญหาบาดเจ็บที่รุนแรงรบกวนอยู่จนทำให้ต้องพักยาวทั้งฤดูกาล แต่อย่างไรก็ดีถูกเรียกเป็นหนึ่งใน 30 นักเตะของเบลเยียม ที่มีโอกาสเข้าร่วมทำศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2007 ยู 21 แล้วเมื่อเข้าสู่ฤดูกาลที่ 2 แวงซองต์ กอมปานี แม้ยังไม่สามารถที่จะเรียกฟอร์มกลับมาได้หลังจากที่ฟื้นตัวจากการบาดเจ็บแต่ก็นับว่าทำผลงานได้ตามมาตรฐานที่มีไว้ ซึ่งนับถึงปัจจุบันลงเล่นไปแล้วทั้งสิ้น 31 นัดยิงได้ 1 ประตู ซึ่งนั่นก็พอจะเรียกให้เขาได้เกิดความมั่นใจและกลับไปติดทีมชาติเบลเยียม โอลิมปิก 2008 ในเดือนสิงหาคมที่ปักกิ่งได้อย่างสบาย ๆ
สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้
ในวันที่ 22 เดือนตุลาคมพ.ศ 2008 ปรากฏการณ์แห่งการชิงตัวของ Kompany ก็เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งซึ่ง Manchester City ทีมที่กำลังปรับทัพ เพื่อเบียดแย่งอันดับในการเป็น Top 5 ได้ทำการซื้อตัวเขามาร่วมทีมในราคา 6 ล้านยูโร โดยในขณะนั้นเขาได้เสื้อเบอร์ 33 ซึ่งสามารถทำผลงานได้ดีจนเหลือเชื่อเลยทีเดียว ซึ่งได้รับความไว้วางใจอย่างสูงจากมาร์ค ฮิวจส์ ผู้จัดการทีมทำให้เขานั้นได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอยู่บ่อยครั้งกว่าใคร
ครั้งแรกที่ลงสนามฟาดแข้งในนามของแมนเชสเตอร์ซิตี้
ในแมตซ์แรกที่ลงสนามเขาต้องเจอกับเวสต์แฮมจากนั้น ประจำกองหลังของเบลเยียม ก็สามารถที่จะทำประตูแรกในนามเรือใบสีฟ้า โดยในเกมนั้นยกพลชนะวีแกน 2 ต่อ 1 ซึ่งต่อมาเขาได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งมาประจำการตรงแดนมิดฟิลด์จึงทำให้มีบทบาทเป็นตัวคุมเกมในจังหวะทำประตูทุก ๆ ครั้ง ซึ่งในเกมเยือนอีวูดปาร์คที่เสมอกันไป 2 ต่อ 2 นั้น นับว่าเป็นอะไรที่สนุกสุด ๆ เลยทีเดียว
ในปี 2009 แว็งซ็อง กงปานี คนนี้ได้ทำการตัดสินใจในการต่อสัญญาฉบับใหม่ไปอีก 5 ปีส่งผลให้กองหลังของทีมเรือใบน้ำแข็งแกร่งอยู่แบบต่อเนื่อง ซึ่งเขาเองก็ไม่ทำให้ต้นสังกัดผิดหวังแม้แต่ครั้งเดียว
ตัดมาในฤดูกาล 2011 ถึง 2012 แวงซองต์ กอมปานี นั้นก็ได้ทำการโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและส่งผลให้ตัวเขาเองนั้นได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสโมสรจากการตรวจของแฟนบอลเหลือใบสีฟ้า รวมถึงยังสามารถที่จะคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกมาครองได้อย่างเต็มภาคภูมิ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้พาต้นสังกัดได้เป็นแชมป์สูงสุดด้วยการนำพาทีมของตนชนะควีนส์ปาร์ค 3 ต่อ 2
โดยสำหรับทีมของ Manchester ยิงแซนในช่วงทดเวลาบาดเจ็บวินาทีสุดท้าย จากนั้น แวงซองต์ กอมปานี ก็ทำการต่อสัญญายาวถึง 6 ปีและนับว่าเป็นนักเตะของแมนซิตี้คนแรกที่เซ็นสัญญาอยู่กับสโมสรได้นานที่สุด และอย่างไรก็ตามใน Season ต่อ ๆ มาจนถึงปัจจุบัน ยอดขุนพลนักเตะชาวเบลเยียม นั้นกลับกลายมีปัญหาทางด้านสุขภาพรุมเร้าจนไม่สามารถที่จะเข็ญฟอร์มสุดยอดของตัวเองออกมาได้อีก ซึ่งเราก็คอยตั้งความหวังไว้ว่าอาจมีสักวันที่เขาจะคืนฟอร์มกลับมาแล้วผงาดขึ้นพาความมันส์ และความสนุกให้แฟน ๆ ได้เสพกันอีกครั้งนั่นเอง