ประวัติ เป็ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมไฟแรงแมนเชสเตอร์ซิตี้

หากจะเอ่ยถึงผู้จัดการทีมในยุคปัจจุบันที่ประสบความสำเร็จในการคุมทีมชื่อของ เป็ป กวาร์ดิโอล่า จะต้องเข้ามาอยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน นับตั้งแต่วันที่เขาเข้ามาทำหน้าที่อย่างเต็มตัว เขานำทั้ง บาร์เซโลนา, บาเยิร์น มิวนิค และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์มากมาย ซึ่งทุกอย่างมาจากประสบการณ์ที่อยู่ในวงการฟุตบอลมานานหลายปี

เป็ป กวาร์ดิโอล่า หรือ โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า ซาล่า เป็นชาวบาร์เซโลน่า ตั้งแต่กำเนิดและมีความหลงไหลในฟุตบอลตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เขาได้เข้ามาอยู่กับ ลา มาร์เซีย ทีมอคาเดมีของบาร์ซ่า ตั้งแต่อายุได้ 13 ปี ซึ่งเขาได้รับคำชมจาก โยฮัน ครัฟฟ์ เป็นอย่างมากเพราะสร้างผลงานได้เป็นอย่างดีในตำแหน่งกองกลางฝั่งขวา เขาอยู่ในทีมเยาวชนจนถึงปี 1990 จึงได้รับโอกาสขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 1990 – 1991

ฤดูกาล 1991 – 1992 โอกาสของดาวรุ่งวัย 20 ปี มาถึงเพราะตอน กิลเยรโม อาร์มอร์ กองกลางตัวหลักไม่สามารถลงเล่นได้ ทำให้ กวาร์ดิโอล่า ได้ลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับของทีม และเขาทำผลงานได้อย่างสุดยอด และมีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ สมัยแรกมาครองได้ในฤดูกาลนั้น จากนั้นเขาได้ผนึกกำลังกับ โรนัลด์ คูมันน์, มิเกล แองเจล นาดาล, กิลเยร์โม อาร์มอร์ และ หลุยส์ ฟิโก้ นำความสำเร็จมาสู่ “คัมป์ นู” แม้จะไม่ได้แชมป์มากมายเท่าที่ควร แต่ผลงานความทุ่มเทที่ กวาร์ดิโอล่า แสดงออกมาทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็นตำนานคนหนึ่งของทีม

เป็ป ลงเล่นให้ บาร์ซ่า จนถึงปี 2001 ก่อนจะย้ายไป เบรสชา, โรม่า, อัล อาลี และปิดท้ายด้วย โดราดอส จากนั้นจึงประกาศอำลาสนามอย่างเป็นทางการในปี 2006 ในปี 2007 เป็ป ได้กลับมาคัมป์ นู อีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีมบาร์เซโลนาชุดบี แต่ก็คุมได้เพียงแค่ปีเดียวก็ถูกดันขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมชุดใหญ่แทนที่ของ แฟรงค์ ไรค์การ์จ เขาได้ใช้ประสบการณ์ตอนเป็นนักเตะมาช่วยในการคุมทีม พร้อมนำระบบ ติกิ ตากา มาประยุกต์ใช้กับฟุตบอลสมัยใหม่ยกระดับให้ บาร์ซ่า กลายเป็นทีมที่มีเกมรุกน่ากลัว เกมรับเหนียวแน่น เขานำ “เจ้าบุญทุ่ม” เป็นแชมป์หลายรายการก่อนจะวางมือในปี 2012

หลังจากวางมือจากบาร์ซ่า เป็ป ได้ใช้เวลาไปพักผ่อนกับครอบครัว จนกระทั่งเดือนมกราคมปี 2013 สโมสรบาเยิร์น มิวนิค ได้ออกแถลงการณ์ว่าได้แต่งตั้งให้ กวาร์ดิโอล่า เข้ามารับหน้าที่ผู้จัดการทีมในฤดูกาล 2013 – 2014 แทนที่ของ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส ที่ตัดสินใจอำลาวงการฟุตบอลอย่างเป็นทางการ ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่คุม “เสือใต้” เขาได้สร้างให้ทีมแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมนำทีมครองแชมป์ลีกเยอรมนี 3 ปีติดต่อกัน แต่ไม่เคยพาทีมไปสู่จุดสูงสุดของสโมสรยุโรปได้เลย เขาคุม บาเยิร์น มิวนิค ลงเล่นไปทั้งหมด 161 นัด ชนะไปถึง 121 นัด เสมอ 21 และแพ้เพียง 19 เกมเท่านั้นซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีมาก

ชีพจรลงเท้า เป็ป อีกครั้งคราวนี้เขาย้ายมาคุมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แทนที่ของ มานูเอล เปเยรกินี ที่ถูกปลดออกไป โดยเซ็นสัญญากับ “เรือใบสีฟ้า” เป็นระยะเวลา 3 ปีด้วยกัน ปีแรกที่เข้ามา แมนฯ ซิตี้ อยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนทำให้เป็ปต้องหานักเตะเข้ามาทดแทน และจบฤดูกาลแรกด้วยความว่างเปล่า มาถึงปีที่สองเมื่อทุกอย่างลงตัว เป็ป ได้บันดาลให้ ซิตี้ กลับมาผงาดครองแชมป์ลีกได้อีกครั้ง และทำได้ถึง 2 ฤดูกาลติดต่อกัน แต่ในฤดูกาลนี้ ซิตี้ เจอปัญหาในเรื่องของการซื้อนักเตะ แต่สุดท้ายพวกเขาถูกตัดสินให้ไม่มีความผิด แต่ต้องเสียสูญเสียแชมป์ไปให้กับ ลิเวอร์พูล ปัจจุบัน เป็ป ในวัย 49 ปี ยังคงคุม แมนฯ ซิตี้ อยู่ และอยู่ในช่วงเตรียมทีมเพื่อกลับมาไล่ล่าแชมป์อีกครั้ง