เออร์ลิง ฮาแลนด์ นั้นนับว่าเป็นจอมทำลายล้างกองหน้าที่หาตัวจับได้ยาก ซึ่งในตอนนี้ได้ขึ้นแท่นเป็นดาวยิงคนใหม่ของ Manchester City เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จนถึงปัจจุบันนี้ยังก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกองหน้าเบอร์ 1 ของโลกลูกหนังอีกด้วย นี่คือหนึ่งในยอดนักเตะที่ไม่ว่าใครก็ต่างขยาดเมื่อจะได้เจอกับทีมของเขาและตัวของเขาเอง
ข้อมูลนักเตะ เออร์ลิง ฮาแลนด์
เออร์ลิง ฮาแลนด์ หรือชื่อเต็มที่ว่า เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ ยอดนักบอลคนนี้นั้นเกิดวันที่ 21 กรกฎาคม ปี 2,000 ที่ลีดส์ ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร โดยจะถึงตอนนี้มีอายุ 22 ปี สัญชาตินอร์เวย์ ส่วนสูง 194 cm ซึ่งความใหญ่โตและความคล่องแคล่วว่องไวดังกล่าวนี้เองทำให้เขาได้ดำรงตำแหน่งในการเล่นศูนย์หน้าของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ ซึ่งในขณะนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ขึ้นแท่นเป็นจอมทำลายล้างและเป็นดาวยิงตัวฉกาจที่ไม่มีใครเลยที่จะไม่รู้จัก
เส้นทางลูกหนัง เออร์ลิง ฮาแลนด์
เออร์ลิง ฮาแลนด์ หรือเมื่อครั้งยังเป็นเด็กน้อย หรือถ้าหากใครเป็นแฟนบอลรุ่นเก่าก็คงจะคุ้นเป็นที่สุดเพราะนี่คือลูกชายสุดที่รักของ ฮัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์ อดีตกองกลางชื่อดังของ nothingham forest ลีดยูไนเต็ด และทางด้าน Manchester City นั่นเอง ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทำให้เจ้าหนูนั้นได้เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ ซึ่งตัวเขานั้นยังเป็นเด็กฝึกหัดภายในสโมสรบริน ในลีกของนอร์เวย์ แต่ด้วยพรสวรรค์ที่บวกกับฝีเท้าและที่สำคัญนั่นก็คือรูปร่างที่สูงใหญ่กว่าวัยเดียวกัน จึงทำให้เจ้าหนูได้เลื่อนไปเล่นในรุ่นที่อายุมากกว่าตัวเองอยู่อย่างบ่อยครั้ง
ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการเข้าถึงฝีมือเจ้าหนูฮาแลนได้เป็นอย่างดี และได้ดึงตัวจากทีมเยาวชนขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ โดยถึงแม้ว่าเวลานั้นเขาจะมีอายุเพียง 15 ปี 9 เดือนเท่านั้น แต่เจ้าหนูคนนี้ก็ได้เล่นชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 นั่นเอง ซึ่งในครั้งแรกได้ทำการเล่นและลงสนามในตำแหน่งปีกก่อนที่จะถูกปรับให้มาเล่นกองหน้า แต่ทว่าฟอร์มการเล่นนั้นยังไม่ค่อยโดดเด่นมากเท่าไหร่เพราะลงเล่นไปทั้งหมด 16 เกมในลีกแต่ไม่สามารถยิงประตูได้แม้แต่ลูกเดียว แต่ด้วยฝีเท้าและความทุ่มเทตลอดจนฟอร์มการเล่นของเขาก็กลับไปเข้าตาของโอเล่กุนน่าโซชา ที่ในตอนนั้นทำหน้าที่เป็นกุนซือของสโมสร โมล์ ซึ่งในเวลาต่อมาก็ได้ย้ายมาเซ็นสัญญาค้าแข้งกับสโมสรใหม่โดยหลังจากย้ายมาไม่นานก็ได้ลงเกมแรกในศึก นอร์เวเจียนคัพ และเพียงนัดแรกก็จัดการยิงประตูได้เลยทันที ต่อมาในวันที่ 4 มิถุนายน 2017 เจ้าตัวก็สร้างความฮือฮาอีกครั้งหนึ่งที่สมกับชื่อฮาแลนด์ เมื่อลงเล่นในเกมแรกในลีกในฐานะตัวสำรอง แต่ก็สามารถยิงประตูได้ด้วยและรุ่นนั้นยังเป็นประตูชัยอีกต่างหาก ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็ถูกส่งลงสนามอย่างไม่มีสะดุด จนกระทั่งจบที่สั้นลงเล่นทั้งหมด 20 นัดและยิงไปได้ถึง 4 ประตูด้วยกัน
ต่อมาก็ถึงฤดูแจ้งเกิดของ เออร์ลิง ฮาแลนด์ อย่างเป็นทางการเลยก็ว่าได้ โดยเขากลายเป็นตัวหลักของสโมสรแม้จะมีอายุเพียง 18 ปี แต่ก็สร้างสถิติอย่างมากมายทั้งการยิงคนเดียว 4 ประตูภายใน 21 นาทีแรกของเกม และการแฮตทริกซ์ใน 11 นาที 2 วินาที หรือแม้กระทั่งการยิงได้ 4 ประตูภายใน 17 นาที 4 วินาที ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นสถิติที่ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ยิงประตูมากที่สุดให้กับโมลด์ ด้วยจำนวน 16 ประตูจากการลงเล่นทั้งหมด 30 นัดจากทุกรายการพร้อมทั้งยังได้รับตำแหน่งนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งลีกอีกด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เข้าตาของสโมสรเรดบูลซันบวร์กสโมสรยักษ์ใหญ่ของลีกออสเตรีย ซึ่งจะทำการขอซื้อตัวเขาไปร่วมทีมในเวลาต่อมา และความมันส์ก็คงไม่หยุดเพียงเท่านั้นเพราะเจ้าหนูฮาแลนอายุเพียง 19 ปีก็ยังสร้างประวัติศาสตร์อย่างมากมาย ทั้งเรดบูลซันบวร์ก และทางด้านวงการลูกหนังที่ทำลายตาข่ายและเขายิงแพทริคให้กับสโมสรในออสเตรเลียนคลับในนัดที่เอาชนะคู่แข่ง 7 ต่อ 1 ต่อมาในวันที่ 10 เขาก็ทำแฮตทริกแรกให้กับออสเตรเลียนบุนเดสลีกา ที่ช่วยให้ทีมเอาชนะคู่แข่ง 5 ต่อ 2 และต่อมาก็ทำแฮทริคครั้งที่ 3 ให้กับสโมสรในวันที่ 14 กันยายน ที่ช่วยให้ทีมถล่มคู่แข่งไปถึง 7:2 ซึ่งเขาคนนี้ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความมหัศจรรย์และผู้ที่สร้างปรากฏการณ์แฮทริคใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าสโมสรใดที่มีเข้าร่วมทีมด้วยจะปรากฏคำว่าสุดยอดเสมอ ส่งผลให้เพียงฤดูกาลแรกที่อยู่กับซัลซ์บวร์ก เขาทำได้ไปถึง 4 แฮตทริกและกดไป 28 ประตูจากการลงเล่นเพียง 28 นัดรวมทุกรายการเรียกได้ว่ายิงถล่มทลาย ซึ่งแน่นอนว่าเรียกความสนใจจากบรรดาต้นสังกัดยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลากหลายทีมเป็นอย่างมาก ซึ่งในขณะนี้สื่อต่าง ๆ ก็พากันฟันธงแล้วว่า Manchester United จะได้ตัวไปร่วมทีมแน่นอน แต่สุดท้ายก็กลับพลิกล็อคเป็นเสือเหลืองโบรูเซียดอร์ทมุนด์ทีมดังบุนเดสลีกาที่ฉกตัวไปร่วมทีมแบบตกตะลึงทั้งวงการลูกหนัง ในช่วงท้ายเดือนมกราคม 2020 ที่ผ่านมา
ซึ่ง ดอร์ทมุนด์นั้นขอตัว เออร์ลิง ฮาแลนด์ เข้ามาร่วมทีมด้วยค่าตัวเพียง 20 ล้านยูโรทั้ง ๆ ที่เป้าหมายของหลาย ๆ ทีมในยุโรปนั้นพร้อมมอบให้มากกว่านั้น ซึ่งเจ้าตัวให้เหตุผลว่าไม่อยากจะกดดันและอยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์จึงเลือกมาที่นี่ โดยเมื่อจบซีซั่นเขาก็ยิงให้กับดอร์ทมุนไปถึง 16 ประตู จากการลงเล่นทุกรายการเพียง 18 นัดเท่านั้น ช่วยให้ต้นสังกัดจบฤดูกาลด้วยการคว้าแชมป์บุนเดสลีกาอีกด้วย ล่าสุด เออร์ลิง ฮาแลนด์ ได้กลายเป็นนักเตะประวัติศาสตร์เมื่อสามารถทำประตูในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกครบ 20 รูปเร็วที่สุดตลอดกาลเป็นที่เรียบร้อย โดยใช้เวลาเพียงแค่ 14 เกมเท่านั้นนอกจากนี้เขายังยิงครบ 100 ประตูในการค้าแข้งไปแล้วจากการเล่นไปเพียง 146 นัดเท่านั้น ต่อมาเมื่อตรวจฤดูกาล 2012 – 2023 นี้ฮาแลนจะย้ายมาเขย่าเวทีพรีเมียร์ลีก เมื่อได้ย้ายจากดอร์ทมุนด์มาค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ซิตี้ทีมลูกหนังชื่อดังด้วยค่าตัวที่สูงถึง 51 ล้านปอนด์
เกียรติประวัติ
โมลด์
- นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 2018
เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
- แชมป์ออสเตรเลี่ยนบุนเดสลีกา 2018-2019
- แชมป์ออสเตรียนคัพ 2018 ถึง 2019
- นักเตะยอดเยี่ยมออสเตรียนบุนเดสลีกา 2019
โบรุสเซีย ดอร์ทมุน
- นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมบุนเดสลีกา เดือนมกราคม 2020
- นักเตะยอดเยี่ยมบุนเดสลีกา เดือนมกราคม 2020
- แชมป์เดเอฟเบ โพดาล 2021-2022
ทีมชาตินอร์เวย์
- ดาวซัลโวยูฟ่าเนชั่นลีก 2020-2021
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2019 ในรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี