ประวัติความเป็นมา เควิน เดอ บรอยน์ กองกลาง แอสซิสต์ขั้นแทพ ที่จับตามอง

BALLVAR

เควิน เดอ บรอยน์ เขาคนนี้นั้นมีประวัติและข้อมูลที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งยังถูกจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีความสำคัญโดยเป็นยอดกองกลางนักเตะทีมชาติเบลเยี่ยม  ที่มีความสตรองสุด  ๆ  พร้อมกันนั้นเขาคนนี้ยังครบเครื่องทุกเรื่องลุยแบบ All in one แบบหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้นที่เคยมี ซึ่งเขาคนนี้ยังถูกการันตีเลยว่าเป็นหนึ่งในคนสำคัญที่ทาง Manchester City นั้นจะขาดไม่ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด  ๆ  ก็ตาม

เจาะข้อมูลนักเตะ

ในนาทีนี้ขอนำเสนอกับกองกลางที่มีความแข็งแกร่งและความสตรองแบบสุดขีด ที่ทุก  ๆ  ท่านจะรู้จักเขาในนาม Kevin De Bruyne โดยเขาคนนี้นั้นเป็นชายที่เกิดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1991 ที่เมืองดรอนเก้น ประเทศเบลเยียม  ซึ่งเขาคนนี้นั้นจนถึงปัจจุบันมีอายุ 29 ปี สามารถเล่นได้ในทุกตำแหน่งแต่มีความโดดเด่นทางด้านกองกลางพร้อมกันนั้นยังมีส่วนสูงอยู่ที่ 181 ซ.ม.  ทุกสิ่งนั้นเรียกได้ว่าเป็นจุดที่ทำให้เขานั้นเป็นชาวเบลเยียมที่ไม่ธรรมดาและพร้อมจะโบยบินเข้าสู่หลีกระดับท็อปของโลกได้แล้วในตอนนี้

เปิดเส้นทางลูกหนัง

เกฟิน เดอ เบรยเนอ หนุ่มน้อยคนนี้ได้มีเส้นทางลูกหนังในการโลดแล่นที่โชติช่วงสว่างเป็นอย่างมากโดยในฤดูกาลที่ 2010-2011  นั้นนับว่าเป็นปีไฮไลท์ของเขาเลยก็ว่าได้เมื่อเจ้าตัวนั้นทำการลงฟาดแข้งแล้วระเบิดฟอร์มแบบสุดท็อปพาทีมเดินหน้าเก็บชัยชนะ เป็นว่าเล่นจนท้ายที่สุดยังสามารถคว้าแชมป์เบลเยียมโปรลีกได้สำเร็จในที่สุด ซึ่งสำหรับตัวเขาเองนั้นยังอยู่ค้าแข้งกับ เกงค์ มาอีกหนึ่งฤดูกาล ซึ่งก็ยังทำผลงานที่ยอดเยี่ยมเช่นเคยจนแน่นอนว่าในลีกระดับประเทศนั้นคงจะหยุดยั้งเขาไม่อยู่

ซึ่งฟอร์มที่ร้อนแรงสุดขีดดันไปเข้าตาของทีมงานเชลซียักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก ที่กำลังมองหาความสามารถในเลเวลนี้อยู่พอดี ซึ่งตัวเขาเองก็ถูกทาบทามจากสิงห์หลูส์ ในปี 2012 ก็ได้ตัดสินใจเดินทางย้ายมาเซ็นสัญญาเป็นนักเตะหน้าใหม่ของสิงห์บลูโบด้วยค่าตัวที่สูงถึง 6.7 ล้านปอนด์ และสัญญาที่ยาวถึง 5 ปีครึ่งเลยทีเดียว แต่ทว่าตัวเขาเองนั้นก็ยังไม่ได้ย้ายมาทันที ซึ่งยังอยู่ช่วยทีมต้นสังกัดจนจบฤดูกาล 2011 ถึง 2012 ต่อไปจึงนับถือว่าเป็นหนึ่งในยอดนักเตะที่มีสปิริตไม่น้อยและทางต้นสังกัดใหม่ก็ยังปลื้มเรื่องนี้เป็นที่สุดอีกด้วย หลังจบฤดูกาล 2011-2012   เป็นที่เรียบร้อย เควินเดอะบอย ก็ยังได้ย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่กับเชลซีอย่างเต็มตัว ซึ่งตัวเขาเองได้ลงประเดิมสนามกับทีมใหม่ในเกมกระชับมิตรที่มีคิวลงดวลกับ  ซีแอตเทิล ซาวน์เดอร์สซึ่งเป็นทีม Major League ในสหรัฐอเมริกา โดยสามารถเอาชนะไปได้อย่างสบาย  ๆ   4 ต่อ 2 เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2012 นั่นเอง

เนื่องจากในเวลานั้น เควินเดอะบอย ตัวของเขาเองยังเป็นเพียงแค่แข้งดาวรุ่งและยังเป็นปัญหาที่แผงกองกลางของเชลซียังมีการอัดแน่นไปด้วยผู้เล่นชั้นนำที่มีอยู่ในเวลานั้น ซึ่งก็เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเขาเองนั้นไม่ได้ลงสนามแล้วยังโดนปล่อยตัวไปให้กับ เวร์เดอร์ เบรเมน ทีมในบุนเดสลีกายืมตัวไปใช้งานในฤดูกาล 2012-2013 อีกด้วย ซึ่งในการย้ายเข้ามาที่เบรเมนในครั้งนี้ ตัวเขาเองได้มีการ โชว์ฟอร์มการเล่นที่สุดยอดแบบจนถึงขีดสุดและกลายเป็นตัวหลักของทีมจนขาดไม่ได้ ซึ่งสามารถยิงได้ถึง 10 ประตูและอีก 10 แอสซิสจากการลงสนามเพียง 34 นัดเท่านั้น และสามารถคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของบุนเดสลีกาอีกด้วย แต่สิ่งนี้ก็ยังไม่ทำให้ต้นสังกัดได้มองเห็นถึงแววแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อโชว์ฟอร์มในระดับนี้ตัวเขาเองหวังเป็นอย่างมากว่าเชลซีจะให้ลงเล่นเป็นตัวจริงแต่ทุกอย่างผิดพลาด เพราะทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมและเจ้าตัวอย่างคุณได้นั่งเป็นตัวสำรองของทีมแบบไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงสนามจากกุนซือ โซเช่ มูรินโญ่ ที่เวลานั้นเป็นกุนซือของทีมสิงห์บลู จึงส่งผลให้ตัวเขาเองนั้นได้ลงสนามเป็นแค่ 9 นัดเท่านั้น โดยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเกมลีกคัพหรือถ้าได้ลงก็จะเป็นช่วงท้ายเกมเท่านั้นเอง

ในที่สุดฝันก็เป็นจริงเพราะเมื่อเดือนมกราคมปี 2014 ทางด้านสิงห์บูก็ได้มีการอนุญาตให้ตัวของเขาเองนั้นได้ย้ายทีมได้ เขาจึงตัดสินใจกลับไปที่บุนเดสลีกาอีกครั้งแต่ทว่าการเดินทางไปครั้งนี้เขากลับขอไปเริ่มต้นที่ทีมโวล์ฟสบวร์ก ทีมลูกหนังที่กำลังมาแรงเป็นอย่างมากในช่วงเวลานั้น ซึ่งขอซื้อตัวเขาไปร่วมทีมด้วยค่าตัวที่สูงถึง 18 ล้านปอนด์ด้วยกันโดยการย้ายมาเล่นที่นี่เขามีความมุ่งมั่นและอยากจะโชว์ให้ทางต้นสังกัดเห็นว่าเขานั้นทำได้ดีแค่ไหน ซึ่งแน่นอนว่าเขาระเบิดฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมแปลงร่างจากกองกลางธรรมดากลายเป็นจอมทัพที่จ่ายบอลได้อย่างเฉียบขาดพร้อมทั้งยังสามารถเป็น แกนนำหลักของแดนกลางที่สามารถบัญชาการเกมรุกได้อย่างสนุกสุด  ๆ  ช่วยให้ทีม โวล์ฟสบวร์ก จบอันดับที่ 5 ของบุนเดสลีกาพร้อมยังเข้ารอบรองชนะเลิศบอลถ้วย  เดเอฟเบ โพคาล อีกด้วย  แต่ความสุดยอดของเขายังไม่จบแค่นั้น ซึ่งฟอร์มระดับเทพได้เปล่งประกายตั้งแต่ต้นซีซั่นยาวไปในฤดูกาล 2014 ถึง 2015 ซึ่งยังมีฟอร์มที่เด็ดขาดพาทีมทุกเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในนัดชิงชนะเลิศและคว้าแชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ในถ้วย เดเอฟเบโพคาล ได้อย่างสุดมันส์ด้วยตัวเขาเองนั้นยังสามารถทำประตูได้อีกด้วย

การกลับมาที่เรือใบสีฟ้า

ต่อมากุนซือชาวชิลีที่มีนามว่า มานูเอล เปเยกรินี่ สุดยอดคุณซีชายชิลีได้ทำการทุ่มเงินถึง 55 ล้านปอนด์คว้าตัวเขามาร่วมทีม ซึ่งเมื่อครั้งที่มายังมีคำถามยิงมา เควิน เดอบรอยน์ อย่างถล่มทลายว่าตัวเขาเองจะทำให้ล้มเหลวหรือไม่ ซึ่งตัวเขาก็ตอบได้อย่างมั่นใจเพราะยังพาทีมเข้ารอบรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นอกจากนั้นก็ยังสามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำสโมสรได้ทั้ง 4 ครั้งจึงนับได้ว่าเขานั้นเจ๋ง ของจริง ซึ่งจนถึงเวลานี้ เคดีบี  หรือ  เควิน เดอ บรอยน์ ในปี 2020 ถึง 2021 ปัจจุบันก็ยังเป็นกำลังสำคัญหลักอย่างแท้จริงและไม่สามารถขาดไปได้ของทีมเรือใบสีฟ้า และในขณะนี้ยังสามารถยิงไปได้แล้วถึง 3 ประตูกับทำทั้งหมด 12 assist เรียกได้ว่าผลงานกำลังพุ่งเลยทีเดียวเรามาดูกันดีกว่าว่าดาวเตะทีมชาติเบลเยียมคนนี้จะสร้างสรรค์อะไรให้เราได้ชมกันอีกในอนาคตอันใกล้


Next Post

ประวัติความเป็นมา หลุยส์ ซัวเรซ สุดยอดกองหน้าตัวเป้า ชาวอุรุกวัย

หลุยส์ ซัวเรซ ที่หลาย ๆ คนนั้นได้รู้จักกันในนาม ลุยส์ อัลเบร์โต ซัวเรซ  ซึ่งเด็กหนุ่มคนนี้เกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม 1987 โดยแน่นอนว่านี่คือหนึ่งในยอดนักเตะชาวอุรุกวัยที่ในปัจจุบันได้เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าจอมดุดันให้แก่ นาซีโอนัล แล้วทีมชาติอุรุกวัยอีกด้วย ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นตำนาน และเป็นหนึ่งในสุดยอดนักเตะที่โลกแห่งฟุตบอลไม่มีวันที่จะลืมเลือนตัวเขาไปได้เลย Luis Suárez เขาคนนี้เกิดที่เมือง ซัลโต ประเทศอุรุกวัย ซึ่งประวัติส่วนตัวของเขานั้นไม่ธรรมดาเพราะเพียงไม่นานนักที่เขาเกิดมาครอบครัวก็ได้ย้ายมาลงหลักปักฐานที่ กรุง มอนเตวิเดโอ โดยสำหรับที่นี่นี่เองเด็กชายคนนี้จึงได้เติบใหญ่ขึ้นมาจากการเลี้ยงดูด้วยลำแข้งของมารดาเพียงคนเดียว ร่วมกับพี่น้องที่คลานตามกันมาถึง 6 คนด้วยกัน โดยในปี ค.ศ 2005 ทางด้านซัวเรซ  ให้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพกับทางสโมสร  นาซิโอนัล ในกรุง มอนเตวิเดโอ โดยสโมสรที่เขาเล่นอยู่ในตอนนี้นั้นเขาจะเล่นมาตั้งแต่ระดับเยาวชนจนถึงเมื่ออายุ 19 ปี จึงได้ตัดสินใจย้ายสโมสรในครั้งแรกของชีวิต มาที่โครนิงเงิน แห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ ในปี 2006 แล้วต่อจากนั้นพอได้ย้ายทีมอีกครั้งในปี 2007 ไปยังสโมสรชื่อดังอย่าง อายักซ์ อัมสเตอร์ดัม […]

You May Like