หากใครที่ติดตามฟุตบอลมาโดยตลอดในตอนนี้จะต้องรู้จักกับชายที่ชื่อ เจอร์เกน คล็อปป์ อย่างแน่นอน เพราะนี่คือผู้จัดการทีมคนแรกในรอบ 30 ปี ที่พา ลิเวอร์พูล กลับมาเถลิงบังลังก์แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศได้อีกครั้ง และยังเป็นการครองแชมป์พรีเมียร์สมัยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรอีกด้วย
เจอร์เกน คล็อปป์ เกิดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ปี 1967 ในเมืองสตุ๊ตการ์ท ประเทศเยอรมนีตะวันตก (ตอนนั้นเยอรมนียังไม่รวมประเทศ) ในตอนนั้นวงการฟุตบอลเยอรมนีตะวันตกมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากทำให้ คล็อปป์ ในวัยเด็กได้รับอิทธิพลไปด้วย เขาหลงไหลในเกมลูกหนัง และได้เข้ามาเป็นเยาวชนของทีม เอฟเฟา แกล็ทเท่น ต่อด้วย เออร์เก็นซิงเก็น ก่อนจะได้รับโอกาสลงเล่นฟุตบอลอาชีพกับ เอฟซี ฟอร์ซไฮม์ แต่ชื่อเสียงของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นแต่อย่างใด
ในปี 1990 คล็อปป์ ได้ย้ายไปอยู่กับ ไมนซ์ 05 จากนั้นเขาได้ปรับตำแหน่งการเล่นจากกองหน้าไปยืนเป็นกองหลังและได้รับคำชมอย่างมากกับตำแหน่งใหม่ และเป็นกองหลังที่ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำเขาทำประตูให้กับต้นสังกัดไปทั้งหมด 56 ประตูจากการลงเล่นไปทั้งหมด 340 นัด แต่กระนั้น ไมนซ์ 05 ก็ไม่เคยได้มีโอกาสเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในบุนเดสลีกา 1 แต่อย่างใด จากนั้นหลังจบฤดูกาล 2000 – 2001 คล็อปป์ ได้ประกาศแขวนสตั๊ดในวัย 34 ปี แต่ด้วยความรักในเกมฟุตบอลทำให้เขาเบนเข็มไปเป็นผู้จัดการทีม
เขาได้คุมไมนซ์ ทันทีหลังจากเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ แล้วใช้เวลาเพียง 3 ฤดูกาล เขาสามารถพาทีมรักขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดของประเทศเยอรมนีได้เป็นผลสำเร็จ เขาเป็นผู้จัดการที่กล้าได้กล้าเสียกล้าจะเปิดเกมแลกกับทุกทีม ชอบใช้ระบบการเพรซซิ่งตั้งแต่แดนหน้า รวมถึงมีเกมรับที่เหนียวแน่น หลังจากพา ไมนซ์ เลื่อนชั้นขึ้นมา เขาคุมทีมอยู่รอดในบุนเดสลีกาได้ 2 ฤดูกาล ก่อนจะตกชั้นสู่ลีก 2 อีกครั้งหลังจบฤดูกาล 2006 – 2007 จากนั้นเขาอยู่คุมทีมถึงปี 2008 จึงได้ประกาศอำลาทีมเพื่อความท้าทายใหม่ๆ ที่เข้ามา
ความท้าทายที่ คล็อปป์ ได้รับต่อจากนั้นคือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเวลานั้น ดอร์ทมุนด์ ตกเป็นลูกไล่ของ บาเยิร์น มิวนิค และได้ไม่เคยสัมผัสกับแชมป์บุนเดสลีกามาเป็นเวลานานถึง 6 ปีด้วยกัน การเข้ามาของ คล็อปป์ เลยปลุกประกายความหวังของแฟนบอลบางส่วนขึ้นมา แต่ก็มีอีกบางส่วนที่ไม่เชื่อในฝีมือของเทรนเนอร์รายนี้ และใน 2 ปีแรกของ คล็อปป์ ทุกอย่างมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีอะไรติดมือมาเป็นชิ้นเป็นอัน จนมีข่าวว่าแฟนบอลและบอร์ดบริหารเริ่มไม่ไหวกับผลงาน
แต่แล้วในฤดูกาล 2010 – 2011 คล็อปป์ ได้สร้างปรากฎการณ์ขึ้นมาเปลี่ยนให้ ดอร์ทมุนด์ กลายเป็นทีมที่มีเกมรุกน่ากลัว เกมรับเหนียวแน่น แล้วหักปากกาเซียนทุกคนด้วยการนำ “เสือเหลือง” กลับขึ้นมาครองแชมป์บุนเดสลีกา อีกครั้งในรอบ 8 ปี เท่านั้นยังไม่พอในปีถัดมาเขายังนำเสือเหลืองครองดับเบิ้ลแชมป์แบบยิ่งใหญ่ จากนั้นในปี 2015 คล็อปป์ ได้ตัดสินใจเดินทางหาความท้าทายอีกครั้งคราวนี้เป็น ลิเวอร์พูล
แฟนบอลต่างดีใจกับการเข้ามาของ คล็อปป์ เขาได้ใช้เม็ดเงินจำนวนมากในการดึงผู้เล่นที่มีคุณภาพเข้ามา ก่อนนำทีมครองความยิ่งใหญ่ในทวีปยุโรปในปี 2019 จากนั้นในปีถัดมาสิ่งที่แฟนบอลรอคอยมาอย่างยาวนานก็ถึงจุดสิ้นสุดลง เขานำ “หงส์แดง” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้เป็นครั้งแรก และเป็นการกลับมายืนบนจุดสูงสุดของอังกฤษอีกครั้งในรอบ 30 ปี ปัจจุบันนี้ คล็อปป์ อยู่ในช่วงเตรียมทีมเพื่อนำ ลิเวอร์พูล กลับมาป้องกันแชมป์และไขว่คว้าเกียรติยศเพิ่มเติม
เกียรติประวัติ
คล็อพ (ที่สองจากซ้าย) กับการฉลองแชมป์บุนเดิสลีกาของโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ ในฤดูกาล 2010–11
ผู้จัดการทีม
โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์
-บุนเดิสลีกา: 2010–11, 2011–12
-เดเอ็ฟเบ-โพคาล: 2011–12
-เดเอฟเอล-ซูเปอร์คัพ: 2008, 2013, 2014
-ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รองชนะเลิศ: 2012–13
ลิเวอร์พูล
-พรีเมียร์ลีก: 2019–20
-ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2018–19; รองชนะเลิศ: 2017–18
-ยูฟ่าซูเปอร์คัพ: 2019
-ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก: 2019
-ฟุตบอลลีกคัพ รองชนะเลิศ: 2015–16
-ยูฟ่ายูโรปาลีก รองชนะเลิศ: 2015–16
ส่วนบุคคล
-ผู้จัดการทีมชาวเยอรมันแห่งปี: 2011, 2012
-FIFA World Coach of the Year – Second Place: 2013
-ผู้ฝึกสอนชายยอดเยี่ยมของฟีฟ่า: 2019
แหล่งข้อมูล
https://th.wikipedia.org/wiki/เยือร์เกิน_คล็อพ